การทำความสะอาดผิวหน้าเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการดูแลรักษาผิวหน้าค่ะ เพราะการล้างหน้าช่วยขจัดสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่เราต้องเจอมาทั้งวันที่ล้วนเป็นอันตรายต่อผิวหน้า เช่น ฝุ่น ควัน แบคทีเรีย ซึ่งมลภาวะเหล่านี้ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการทำให้เกิดปัญหาสิว นอกจากนี้การทำความสะอาดผิวหน้ายังช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าหรือเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป ช่วยลดปัญหาสิวอุดตัน และช่วยให้ใบหน้าของเรากระจ่างใสเรียบเนียนมากยิ่งขึ้นค่ะ
ดังนั้นการล้างหน้าจึงเป็นสิ่งเราไม่ควรมองข้ามหรือละเลยเลยค่ะ เพราะการล้างหน้าให้สะอาดหมดจด และล้างหน้าอย่างถูกวิธี เป็นการช่วยให้ผิวหน้าของเราสะอาด และป้องกันปัญหาผิวต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต รวมถึงช่วยให้ผิวหน้าของเราสุขภาพดี ไม่ถูกทำร้ายนั่นเอง วันนี้เราจึงนำทริคการล้างหน้าที่ช่วยให้ผิวของเพื่อน ๆ สะอาดหมดจดมาฝากกันค่ะ
How to ล้างหน้ายังไง ให้สะอาดหมดจด
1. อย่าลืมเช็ดเครื่องสำอางก่อนล้างหน้า
วิธีการล้างหน้าให้สะอาดหมดจดนั้น เราต้องเริ่มจากการเช็ดเครื่องสำอางออกก่อนค่ะ ถึงแม้ว่ามองด้วยตาเปล่า สีของเครื่องสำอางที่เราใช้นั้นจะหมดไปแล้ว แต่ความมันในเครื่องสำอางอาจจะยังอยู่ค่ะ ดังนั้นการเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางออกก่อนทำความสะอาดผิวหน้าจึงเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก ๆ และไม่ควรข้ามขั้นตอนนี้ไปค่ะ การใช้คลีนซิ่งเช็ดเครื่องสำอางออกนั้นจะช่วยให้ผิวหน้าของเราสะอาดขึ้น และป้องกันการอุดตันของรูขุมขนที่จะทำให้เกิดสิวและผิวหน้าหมองคล้ำนั่นเอง
2. ล้างหน้าด้วยอุณหภูมิที่เหมาะสม
เพื่อให้ผิวหน้าของเราสะอาดหมดจด และไม่ถูกทำร้าย เราควรล้างหน้าด้วยอุณหภูมิที่เหมาะสมค่ะ คือควรเลือกใช้น้ำที่เหมาะสมกับผิวหน้า เช่น ใช้น้ำอุ่นเพื่อเปิดรูขุมขนและขจัดความมัน แต่ไม่ควรใช้น้ำร้อนในการล้างหน้าเพราะจะทำให้ผิวของเราแห้งและกระด้าง ส่วนการใช้น้ำเย็นจะช่วยกระชับรูขุมขนและทำให้ผิวสดชื่นขึ้น แต่ไม่ควรใช้น้ำเย็นจัดในการล้างหน้าค่ะ
3. ไม่ควรล้างหน้านานเกินไป
การล้างหน้าเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพผิวของเราค่ะ แต่ไม่ควรล้างหน้านานเกินไป หรือไวเกินไป เพื่อให้ผิวหน้าของเราคงความสมดุลไว้ และไม่ถูกรบกวนมากเกินไป เราจึงควรล้างหน้าภายในระยะเวลา 30 วินาที – 1 นาที ค่ะ หากเราล้างหน้านานเกินไป อาจทำให้ผิวหน้าของเราอ่อนแอและเสียสมดุลได้ แต่ถ้าล้างไวเกินไป อาจทพชำให้ผิวหน้าของเราไม่ได้รับการทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึงนั่นเอง
4. ไม่ควรใช้ผ้าขนหนูเช็ดหน้า
อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้การทำความสะอาดหน้าเลยก็คือการเช็ดหน้านั่นเองค่ะ หากเราใช้ผ้าที่ไม่สะอาดมาเช็ดหน้า อาจทำให้การล้างหน้าของเราสูญเปล่าก็ได้นะ โดยเฉพาะการใช้ผ้าขนหนูนั่นเอง แม้ว่าเราจะมั่นใจว่าผ้าขนหนูที่เราใช้นั้นสะอาด แต่ผ้าขนหนูมีความหนาและแห้งได้ยาก ทำให้กลายเป็นที่สะสมของฝุ่นและแบคทีเรียได้ง่ายมาก ๆ ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาผิวหน้าตามมาได้ง่าย ดังนั้น เราควรหลีกเลี่ยงการใช้ผ้าขนหนูและใช้กระดาษทิชชู่สำหรับผิวหน้าในการเช็ดหน้าแทนเพื่อผิวหน้าที่สะอาด และป้องกันการสะสมของสิ่งสกปรกบนใบหน้าหลังจากล้างหน้าแล้วนั่นเองค่ะ
5. สครับผิวหน้าเป็นประจำ
แม้ว่าการล้างหน้าจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกและช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป แต่ก็อาจขจัดออกไปได้ไม่หมดเท่าการสครับผิวหน้าค่ะ การสครับผิวหน้าบ่อยครั้งจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกตกค้าง และเซลล์ผิวที่ตายออกไปได้ แถมยังช่วยเผยผิวกระจ่างใสขึ้นอีกด้วย การสครับผิวหน้านั้น ควรทำเป็นประจำอย่างน้อย 1-2 วันต่อสัปดาห์ และควรทำหลังจากการทำความสะอาดผิวหน้าแล้ว เพื่อให้สครับทำความสะอาดผิวได้อย่างล้ำลึกค่ะ และไม่ควรสครับผิวหน้าก่อนจะทำความสะอาดผิว เพราะจะทำให้ความมันและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่อยู่ในผิวหน้ายิ่งอุดตันหรือขจัดออกได้ยากกว่าเดิมนั่นเอง
และนี่คือวิธีการทำความสะอาดผิวหน้าที่เรานำมาฝากทุกคนกันค่ะ การทำความสะอาดผิวหน้า แม้จะดูเป็นเรื่องที่ไม่ซับซ้อน แต่สำคัญต่อผิวหน้าของเรามาก ๆ เลย แม้เราจะประโคมสกินแคร์แค่ไหน แต่ยังล้างหน้าอย่างผิดวิธี ก็อาจทำให้เกิดปัญหาผิวตามมาอยู่ดีนั่นเองค่ะ
การเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางเป็นอย่างหนึ่งที่เราต้องพิถีพิถันมาก ๆ ใครที่ผิวค่อนข้างแพ้ง่าย และไม่อยากรบกวนผิวในขั้นตอนนี้มากจนเกินไป เราอยากแนะนำคลีนซิ่งที่ช่วยลบเครื่องสำอางได้อย่างหมดจด และยังช่วยบำรุงผิวหน้า แถมไม่มีน้ำหอม ไม่มีสารกันเสีย ไม่มีแอลกอฮอล์ อย่าง MINAKI Pure-ri Premium Cleansing Essence นั่นเองค่ะ ตัวนี้มีสารสกัดจากน้ำมันธรรมชาติ 4 ชนิด ไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน มะพร้าว มะกอก มะรุม และอะโวคาโด้ ช่วยให้ความชุ่มชื้น เติมความยืดหยุ่นให้กับผิว ช่วยลดการระคายเคืองและเสียดสีระหว่างผิวและสำลีขณะเช็ดค่ะ ใครที่มีปัญหาผิวแพ้ง่าย ผิวไม่แข็งแรง ผิวแห้ง คลีนซิ่งตัวนี้ถือว่าตอบโจทย์ไม่น้อยเลยค่ะ