วิธีรับมือยามงูเข้าบ้านในหน้าฝน

หน้าฝนไม่ได้มีแค่ความชุ่มฉ่ำเพียงอย่างเดียวนะคะ แต่ยังนำพาบรรดาเพื่อนรักในป่าใหญ่เข้ามาอาศัยในบ้านแบบไม่ได้รับเชิญด้วยนะ ต่อให้มาแบบสนติวิธีแต่ก็ไม่แน่ว่ามันอาจทำร้ายคนในบ้านถึงแก่ชีวิตได้ หากเป็นแมงป่อง ตะขาบยังพอไล่ไป แต่ถ้าเป็นงูตัวใหญ่ ควรทำไงดี อยากรู้วิธีรับมือยามงูเข้าบ้าน ตาม Lab Society มาสิคะ

1. รีบออกไปจากบริเวณดังกล่าว

เมื่อเห็นงูเลื้อยผ่าน ย่อมต้องมีเสียงกรีดร้องเป็นธรรมดา หากอยู่กันหลายคนเหตุการณ์นี้อาจไม่รุนแรงเท่าไรนัก แต่ถ้าอยู่คนเดียวเปลี่ยวเอกามันคงเป็นอะไรที่หวาดผวา เมื่อตั้งสติได้แล้วให้รีบพาตัวเองไปจากบริเวณนั้นทันที แต่อย่าลืมเครื่องมือสื่อสารเด็ดขาดนะคะ ถ้าไม่สามารถนำออกมาได้ ให้รีบไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านทันที

2. นำผ้าคลุมงูไว้

กรณีที่เราต้องเผชิญหน้ากับงู แน่นอนว่าเหตุการณ์นี้ไม่มีใครอยากเจอแบบจัง ๆ งูนอนขด หรืออาจจะชูคออยู่ทางออกของห้องนอน ห้องครัวเพื่อทักทายเจ้าบ้านตามประสาผู้อาศัยที่ดี ทางเดียวที่คุณจะออกมาจากสถานการณ์น่าอึดอัดนี่ได้คือ หาผ้าห่ม ผ้าเช็ดตัว หรือผ้าอะไรก็ได้โยนคลุมแขกไม่ได้รับเชิญ แล้วรีบออกมาโดยไว

3. ขอความช่วยเหลือ

สัตว์มีพิษ ไม่เสี่ยงดีที่สุด เมื่อออกจากบ้านได้แล้วให้คุณรีบไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน หรือหน่วยกู้ภัย เพื่อมาจับงูไปปล่อย โดยเฉพาะพี่ ๆ กู้ภัยที่อุปกรณ์ครบมือ มีความเชี่ยวชาญ ปัญหางูเข้าบ้านก็เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย

4. สังเกตการณ์อย่าให้คลาดสายตา

ระหว่างรอผู้เชี่ยวชาญในการจับงูเดินทางมาถึง ให้คุณคอยสังเกตการณ์ว่างูยังซ่อนตัวอยู่ที่เดิม หรือแอบเลื้อยไปหลบอยู่ซอกมุมใดของบ้าน อย่าปล่อยให้คลาดสายตาเป็นอันขาด เพื่อง่ายต่อการค้นหา และเป็นการระวังตัว

5. อย่าปล่อยให้สัตว์เลี้ยงเข้าไปในบ้าน

โดยเฉพาะบ้านใดที่เลี้ยงน้องหมา สัญชาตญาณนักล่าในตัวจะถูกปลุกขึ้นมา ต่อให้งูหลบซ่อนอยู่ที่ไหนน้องหมาก็จะหาจนพบ หากงูนั่นมีพิษ อาจทำร้ายน้องหมาถึงแก่ชีวิตได้ ฉะนั้นควรเก็บน้องหมาไว้ใกล้ตัว อย่าให้เข้าไปเพ่นพ่านในบ้านโดยเด็ดขาด

เรื่องงูเข้าบ้านอาจฟังดูเหมือนเรื่องไกลตัว แต่จะประมาทไม่ได้เลยนะคะ ต่อให้บ้านสะอาดเอี่ยมอ่องแค่ไหน ก็ใช่ว่างูจะไม่เข้ามาหลบฝนนะ ทางที่ดีคือต้องปิดประตู หน้าต่างให้มิดชิด บ้านใดที่มีช่องว่างระหวางวงกบประตูกับพื้น ควรยัดเศษผ้าปิดให้มิดเพื่อป้องกันลูกงูตัวเล็ก ๆ เข้ามาอาศัยแบบไม่ทันตั้งตัวนั่นเอง