ปากแห้งแตกเกิดจากอะไร ?
ริมฝีปากของคนเราไม่มีต่อมน้ำมันเหมือนผิวหนังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย ทำให้ริมฝีปากสูญเสียความชุ่มชื่นและปากแห้งง่าย สาเหตุเกิดจากสิ่งแวดล้อม ปัญหาสุขภาพ และพฤติกรรมของเราที่มักจะละเลยการบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื่นอยู่เสมอ
หากปล่อยให้ริมฝีปากแห้ง แตก หรือแกะริมฝีปากจนเป็นแผล อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราเข้าไปในรอยแตก ทำให้ปากแห้งลอกรุนแรง, ปากเป็นสีชมพูเข้มหรือสีแดง, ริมฝีปากไม่เรียบเนียน, มีแผลเปื่อย, แผลอักเสบหรือพุพอง, เป็นคราบขาวที่ริมฝีปาก และมีอาการเจ็บแสบที่ริมฝีปาก หากพบว่ามีอาการดังกล่าว ควรไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อหาสาเหตุและแนวทางในการรักษาที่เหมาะสมต่อไป ทางที่ดีควรปกป้องและบำรุงริมฝีปากตั้งแต่เนิ่น ๆ จะได้ไม่ต้องเผชิญกับปัญหาริมฝีปากดังที่กล่าวมา
10 ตัวการสำคัญที่ทำให้ริมฝีปากแห้ง แตก และปากลอกได้
คุณอาจจะสงสัยว่า จะฤดูกาลไหนปากก็แห้ง ลอก แสบแดง และปากแตกเป็นประจำ จนไม่รู้ว่าจะทำวิธีไหนดีถึงจะป้องกันปากแห้งมาก แถมปากยังไม่นุ่ม ชุ่มชื่น และเรียบเนียน มาสำรวจกันดีกว่าค่ะว่า สาเหตุที่ทำให้คนเราปากแห้ง แตก แสบ แดง และลอกเป็นขุยเกิดจากอะไรกันบ้าง
- สภาพอากาศ ในช่วงที่อากาศหนาวเย็น และอากาศแห้ง อย่างการนั่งทำงานในห้องแอร์ตลอดวัน มักจะทำให้ปากแห้ง แตก และลอกเป็นขุย ในทางตรงกันข้ามปากแห้งอาจเกิดขึ้นได้ในสภาพอากาศปกติหรืออากาศร้อน รวมถึงการที่ริมฝีปากโดนแสงแดดมากเกินไปก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ปากแห้งได้เช่นกัน
- เลียริมฝีปากและชอบเม้มปาก การเลียริมฝีปาก เม้มปาก หรือแกะปากเล่น จะทำให้ปากแห้งและปากคล้ำมากขึ้น เพราะน้ำลายจะดึงเอาความชุ่มชื่นออกจากชั้นผิว จึงทำให้ปากแห้งนั่นเอง
- ดื่มน้ำน้อย คนที่ดื่มน้ำน้อยหรือร่างกายขาดน้ำ นอกจากจะทำให้ปากแห้งมากแล้ว ยังทำให้เกิดอาการอื่น ๆ อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นวิงเวียนศีรษะ ปวดศีรษะ ท้องผูก เพราะร่างกายต้องได้รับน้ำดื่มอย่างเพียงพอ เพื่อรักษาความชุ่มชื่นของให้สดชื่นและเสริมการไหลเวียนของระบบต่าง ๆ ของร่างกาย
- อายุเพิ่มมากขึ้น เมื่ออายุมากขึ้นต่อมไขมันตามธรรมชาติของผิวหนังจะลดลง ส่งผลให้ปากแห้งลอกและปากแตกง่ายขึ้น
- ลดน้ำหนักหรือภาวะขาดสารอาหาร คนที่รับประทานยาลดน้ำหนักหรือควบคุมอาหาร จะทำให้ร่างกายขาดสารอาหาร วิตามิน หรือแร่ธาตุบางชนิด ซึ่งอาการจะคล้ายกับเวลาที่ร่างกายขาดน้ำจึงทำให้ปากแห้งง่าย ยิ่งคนที่ดื่มน้ำน้อยจะทำให้ปากแตกและลอกเป็นขุย ความน่ากลัวคือ ภาวะขาดสารอาหารอาจนำไปสู่โรคอื่น ๆ ได้ เช่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง กระดูกเปราะ ฟันผุ ท้องผูก หรือท้องอืด โดยผู้ที่มีภาวะขาดน้ำและขาดสารอาหาร มีแนวโน้มจะปากแห้งง่ายกว่าผู้ที่ไม่อยู่ในภาวะขาดน้ำ หากพบว่าอาการปากแห้งมาจาก 2 ภาวะนี้ ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการแก้ไข เพราะเป็นภาวะที่ควรได้รับการดูแลจากแพทย์
- สูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ และติดสารเสพติดต่าง ๆ นอกจากจะทำให้ปากแห้งรุนแรง ปากแตก ปากคล้ำ แล้วยังสร้างความเสียหายแก่ฟันอีกด้วย
- ยารักษาโรคหรืออาหารเสริมบางชนิด ยารักษาโรคหรืออาหารเสริมบางชนิด อาจทำให้ปากแห้งได้ เช่น วิตามินเอ เรตินอยด์ (Retinoids) ยาลิเทียม (Lithium) ยาขับปัสสาวะ ยาคลายเครียด ยาต้านอาการซึมเศร้า ยารักษาข้ออักเสบและแผลเปื่อยบางชนิด หรือเคมีบำบัด ฯลฯ รวมถึงคนที่รับประทานยาแก้แพ้ ยาลดน้ำมูก และยาความดัน ก็มีผลข้างเคียงทำให้ปากแห้งเช่นกัน
- โรคเรื้อรังทางผิวหนัง โรคเรื้อรังหรือภาวะทางผิวหนังบางอย่าง อาจส่งผลให้ปากแห้ง แตก และไวต่อการระคายเคือง เช่น โรคผิวหนังอักเสบ (Eczema) โรคไลเคนพลานัส (Lichen Planus) โรคพุ่มพวงหรือแพ้ภูมิตัวเอง (Lupus Erythematosus) โรคโครห์น (Crohn’s Disease) หรือซาร์คอยโดซิส (Sarcoidosis)
- ลิปสติก สาว ๆ อาจจะเคยเจอปัญหาทาลิปสติกแล้วปากแห้งเป็นขุย นั่นเพราะส่วนผสมของสารเคมีที่อยู่ในลิปสติก ทำให้ริมฝีปากแห้งและระคายเคือง ไม่ว่าจะเป็นสี กลิ่น น้ำหอม ลาโนลิน สารเพิ่มความชุ่มชื่น ปิโตรเลียมเจลลี่ สารกันแดด สารกันบูด (พาทาเลตส์) หรือโลหะหนัก เช่น สารปรอท สารตะกั่ว วิธีสังเกตง่าย ๆ คือ พอเปลี่ยนลิปสติกแล้วปากแห้งแตก มั่นใจได้เลยว่าลิปสติกแท่งใหม่อาจจะไม่เวิร์ค อย่าเสียดายเลยค่ะ เพราะหากฝืนทาจนหมดแท่งอาจจะส่งผลเสียต่อริมฝีปากและสุขภาพมากกว่าที่คิด
- ยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปาก หากคุณเปลี่ยนยาสีฟันแล้วปากแห้งแตกอย่าตกใจ เพราะยาสีฟันหรือน้ำยาบ้วนปากบางชนิด มีส่วนผสมของฟลูออไรด์หรือแอลกอฮอล์ในปริมาณสูง มักจะทำให้ผิวระคายเคืองและเกิดอาการแพ้ รวมถึงสารทำให้เกิดฟอง (SLS) สารที่ให้รสสัมผัสเย็นซ่า เมนทัล และสารเพิ่มความสดชื่น ตัวการที่ทำให้ปากแห้งแตก โดยอาการแพ้ยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปากมักจะเกิดร่วมกับแผลในช่องปาก
- ยาทาเล็บและเล็บอะคริลิค คุณอาจจะสงสัยว่า เล็บกับปากออกจะห่างไกลกัน แล้วทำไมยาทาเล็บถึงทำให้ปากแห้งได้ล่ะ? สำหรับคนที่มีนิสัยชอบกัดเล็บจนเป็นนิสัย ทำให้ริมฝีปากสัมผัสกับสารเคมีต่าง ๆ ที่อยู่ในยาทาเล็บหรือเล็บอะคริลิค จนทำให้ปากแห้งแตกและระคายเคืองนั่นเอง
6 เคล็ดลับบำรุงริมฝีปากช่วงหน้าหนาวให้ชุ่มชื่น เนียนสวย ไม่ง้อเคมี ฉบับสาวๆ LAB Society!
รู้สาเหตุที่ทำให้ปากแห้ง แตก แสบแดง และปากลอกเป็นขุยกันแล้ว เรามี 6 เคล็ดลับดูแลริมฝีปากให้นุ่มชุ่มชื่นสุดพลัง เพื่อช่วยบำรุงและปกป้องริมฝีปากให้เนียนสวยและช่วยเพิ่มความมั่นใจมากขึ้น
1. ดื่มน้ำเป็นประจำ ควรดื่มน้ำเปล่าวันละ 8-10 แก้วหรือบางคนจะดื่มถึง 2 ลิตรเลยก็ได้ค่ะ ไม่นับรวมชา กาแฟ น้ำอัดลม และน้ำผลไม้ เพราะน้ำเหล่านั้นไม่ช่วยให้ผิวชุ่มชื่นเท่าไหร่ แต่ควรดื่มน้ำเปล่าเพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้เซลล์ผิวหนัง ทั้งยังลดอาการปากแห้งลอกได้ด้วย โดยเฉพาะผู้สูงอายุควรดื่มน้ำมากขึ้น เพราะยิ่งอายุเพิ่มขึ้นเซลล์จะเก็บความชุ่มชื่นลดลง
2. งดพฤติกรรมเสี่ยง และเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารเคมี เตือนตัวเองเสมออย่าเผลอเลียริมฝีปาก เม้มปาก แกะหรือลอกริมฝีปาก เพราะทำให้ปากแห้ง แตก แสบแดง และซ้ำเติมผิวหนังให้อ่อนแอมากขึ้น ทั้งยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคต่าง ๆ อีกด้วย และควรหลีกเลี่ยงสารเคมีในลิปสติก ยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก ที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้ อาทิ พาทาเลตส์ ปิโตรเลียมเจลลี่ และโลหะหนัก ทางที่ดีเปลี่ยนมาใช้ ลิปบาล์มไอราแบบแท่ง eco กลิ่นพีช นั้นจะเหมาะกับผู้ที่ปากแห้งมาก และต้องการเนื้อบาล์มที่เข้มข้น โดยสูตรนี้จะมีเชียบัตเตอร์เพิ่มมากขึ้น 20% และจะมอบความชุ่มชื้นยาวนานถึง 8 ชั่วโมง และสามารถลดอาการปากคล้ำได้เป็นอย่างดี >> https://bit.ly/3kbJlqu
3. สครับริมฝีปากให้นุ่มชุ่มชื่น คนที่ปากแห้งลอกมักเกิดจากเซลล์ผิวที่ตายแล้วตกค้างบนริมฝีปาก หากปล่อยไว้นานเกินไป อาจทำให้ปากแห้งเป็นขุยและปากคล้ำมากขึ้น
4. บำรุงด้วยลิปบาล์มเป็นประจำ ลิปบาล์มเป็น must have สำหรับคนที่ปากแห้งมาก ปากลอก และปากแตก อ่อนโยนต่อทุกเพศทุกวัย ใช้ได้กับทารก เด็ก และผู้สูงอายุ
5. รักษาแผลบนริมฝีปาก และปากแห้งแตกด้วยน้ำผึ้งธรรมชาติ น้ำผึ้งมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อได้ คุณจึงสามารถนำมาใช้รักษาบาดแผลบนริมฝีปากที่แห้งแตกและปากลอกได้อย่างดี วิธีการง่าย ๆ แค่ใช้คัตตอนบัดจุ่มน้ำผึ้งแล้วทาทิ้งไว้บนริมฝีปากประมาณ 10-15 นาที จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดทำความสะอาดเบา ๆ ช่วยบรรเทาอาการปากแห้งลอก ปากแตก และแสบแดงอย่างอ่อนโยน
6. รับประทานอาหารที่มีวิตามินและอาหารเสริม การรับประทานอาหารที่อุดมด้วยวิตามินเอ บี ซี และโอเมก้า 3 ในปริมาณที่เหมาะสมกับความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน เช่น ธัญพืชไม่ขัดสี, ข้าวกล้อง, ผักใบเขียว, ถั่วเปลือกแข็ง, ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่, โยเกิร์ตรสธรรมชาติ จะช่วยบำรุงให้ริมฝีปากมีสุขภาพดีและเพิ่มความชุ่มชื่นให้ริมฝีปากมากขึ้น
4 ไอเท็มลับฉบับสาว LAB Society
- A.Pira Organic Lip Treatment ตัวช่วยฟื้นฟูและบำรุงริมฝีปากที่แห้งแตก ลอก ให้นุ่มชุ่มชื้น ผลัดเซลส์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอกออก ลดความคล้ำ ให้ริมฝีปากแลดูสุขภาพดี
2. SHOO Hydrating Lip Treatment
จุดเด่นจะอยู่ที่เนื้อลิปที่เป็นเนื้อออยล์กึ่งบาล์ม ทำให้เนื้อซึมได้ดี กักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี ไม่หนักปาก ไม่เหนอะหนะ สามารถใช้ได้ทั้งกลางวันกลางคืนค่ะ โดยมีส่วนผสมที่สำคัญ คือ สารสกัดทับทิม, น้ำมันโรสฮิบ, น้ำมันซีบัคธอร์น, โกโก้บัตเตอร์ และ สารสกัดว่านหางจระเข้ออร์แกนิค ที่จะมาช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ริมฝีปากของคุณ ได้ยาวนานถึง 8-10 ชั่วโมง สามารถใช้ได้ทุกเพศทุกวัย ปราศจากสารอันตรายต่างๆ No Paraben, No SLS, No Mineral Oil, No Silicone, No Alcohol, No Petrolatum, No Phynoxyethanol
และที่สำคัญ No Animal Testing
3. Ira Eco Lip Balm Tube: Peach
‘ลิปบาล์มไอราแบบแท่ง eco กลิ่นพีชนั้นจะเหมาะกับผู้ที่ปากแห้งมาก และต้องการเนื้อบาล์มที่เข้มข้น โดยสูตรนี้จะมีเชียบัตเตอร์เพิ่มมากขึ้น 20% และจะมอบความชุ่มชื้นยาวนานถึง 8 ชั่วโมง และสามารถลดอาการปากคล้ำได้เป็นอย่างดี
แท่ง Eco Tube นี้เป็นแท่งที่ทำมาจากกระดาษทั้งหมดโดยไม่มีส่วนใดที่ทำจากพลาสติกจึงทำให้สามารถย่อยสลายสู่สิ่งแวดล้อมได้ 100% โดยวิธีใช้ของแท่งลิปบาล์มนี้จะใช้การดันจากด้านล่างของแท่งเพียงเล็กน้อย เนื้อบาล์มจะขึ้นมาให้ใช้ได้อย่างสะดวกสบาย
ถึงแม้จะทำมาจากกระดาษแต่มีความคงทนต่อการเปียกชื้นในระดับดี แม้มือเปียกมาจับหรือโดยน้ำเล็กน้อยก็ไม่ทำให้เสียรูปลักษณ์และความสวยงาม
ส่วนผสม Shea Butter, Beeswax, Perfume*, Macadamia Nut Oil, Carnauba Wax, Polysorbate20 (Food Grade), Tocopherol *Food Flavouring
4. Ira Eco Tube: MATCHA GREEN TEA
ลิปบาล์มแท่งกระดาษ Eco Tube กลิ่นใหม่และสูตรใหม่ล่าสุดจากทางไอรา โดยกลิ่นนี้จะมีส่วนผสมของสารสกัดชาเขียว (Green Tea Extract) ที่มีสารโพลีฟีนอลที่ชื่อว่า EGCC (Epigallo Catechin) ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษในการชะลอวัยเซลล์ริมฝีปาก รวมไปถึงป้องกันการอักเสบของริมฝีปากที่โดนทำลายจากรังสี UVA และ UVB จึงเหมาะแก่การใช้ตอนกลางวันเพื่อป้องกันการทำร้ายจากแสงแดด และสามารถใช้คู่กับ Eco Tube กลิ่น PEACH ซึ่งให้ความชุ่มชื้นยาวนานและลดอาการปากคล้ำจากวิตามินอี
สำหรับตัวแท่งนั้นทำมาจากกระดาษ 100% สามารถย่อยสลายคืนสู่สิ่งแวดล้อมได้ทั้งหมดไม่เหลือเป็นภาระให้โลกของเรา แม้จะทำมาจากกระดาษแต่มีความทนทานอย่างมากเพราะทำจากกระดาษอาร์ตแบบพิเศษ โดยวิธีการใช้นั้นใช้การดันจากก้นของแท่งลิปเพียงเล็กน้อย และสามารถทาและปิดฝากลับไปได้เลย
ส่วนผสม: Shea Butter, Beeswax, Food Flavouring, Polysorbate20 (Food Grade), Carnauba Wax, Macadamia Nut Oil, Apricot Kernel Oil, Green Tea Extract.