ในยุคที่หลายๆคนต้องทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ในห้องแอร์ ดูเหมือนจะสบายใช่มั้ยล่ะคะ แต่จริงๆแล้วการที่เราเพ่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ อาจทำดวงตาและสมองเราทำงานหนัก ยิ่งถ้าเราพักผ่อนไม่เพียงพอแล้วยังโหมงานหนักเราก็มีสิทธิที่จะเกิดอาการเครียดสะสมได้ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพอย่างแน่นอน วันนี้เราจึงมีวิธีพักเพื่อไม่ให้สมองของเรานั้นทำงานหนักจนเกินไป ไปอ่านกันเลย
พักทุกๆ 75 ถึง 90 นาที ให้เวลาสมองจัดเรียงข้อมูล
มีงานวิจัยบอกว่าร่างกายมนุษย์จะเปลี่ยนจากการโฟกัสไปสู่ความเหนื่อยล้าในทุกๆ 90 นาที เมื่อถึงเวลาร่างกายก็จะส่งสัญญาณความอ่อนล้ามาเตือนว่าพักเถอะ ดังนั้นถ้าอยากให้สมองแอ็คทีฟก็ควรจะได้เบรกสมองทุกๆ 75 – 90 นาที ให้สมองให้รวบรวม จัดเรียง และบันทึกข้อมูลที่ได้รับมา บอกเลยว่าถ้าคลาสเรียนในมหาวิทยาลัยไหนใช้เวลาเท่านี้ ประสิทธิภาพการเรียนของนักเรียนก็จะดีขึ้น
พักทุกๆ 52 นาที พักรอบละ 17 นาทีก็เพียงพอ
ถ้าจะต้องรอถึงชั่วโมงครึ่งร่างกายอาจจะฝืนไม่ไหว มีอีกหนึ่งงานวิจัยบอกว่าพักทุก 52 นาทีก็ได้ผลดีไม่แพ้กัน มีการทดลองติดตั้งแอปฯ จับเวลาบนเครื่องคอมพิวเตอร์ของพนักงานบริษัท พบว่าพนักงานที่ทำงานได้ดีไม่่ใช่คนที่ทำงานตลอดเวลา แต่เป็นคนที่พักบ่อยๆ ทำงานไป 52 นาทีแล้วก็หยุดพัก เบรกประมาณรอบละ 17 นาที แค่นี้ก็สดชื่นขึ้นแล้ว
พักทุกๆ 25 นาที ตามเทคนิค Pomodoro
อีกหนึ่งเคล็ดลับก็คือเทคนิคที่มีชื่อเรียกว่า Pomodoro คือไม่ต้องใช้สมาธิยาวๆ แต่เปลี่ยนเป็นการทำงานเป็นเวลาสั้นๆ 25 นาที และหยุดพัก 5 นาที ดูเหมือนจะทำงานแค่แป๊บเดียว แต่มันมีวิธีที่จะทำให้งานออกมาเวิร์กที่สุด อันดับแรกคือต้องจดลิสต์สิ่งที่ต้องทำ ตั้งนาฬิกาจับเวลา 25 นาที พอเริ่มจับปุ๊บก็ต้องลงมือทำงานทันที ห้ามออกนอกลู่นอกทางไปไหน พอครบเวลานาฬิกาปลุกดังเมื่อไหร่ ก็ให้พักผ่อนได้เต็มที่ 5 นาที แล้วก็วนกลับมาทำงานตามลูปเดิมอีกครั้ง ผ่านการทำงาน 25 นาทีครบ 4 รอบ ก็ให้พักยาวๆ 20 – 30 นาทีไปเลย
ลองไปใช้วิธีพัก 3 วิธีดูนะคะ แต่ก็อย่าลืมที่จะพักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอนะคะ แต่ถ้ายังไม่ไหวแนะนำว่าควรที่จะพักร่างกายของเราบ้างเพราะสุขภาพของเราสำคัญที่สุดค่ะ
ข้อมูลจาก : https://www.dek-d.com/teentrends/56283/