สายดื่ม สายปาร์ตี้แทบทุกคนต้องเคยเจอกับอาการเมาค้าง หรือ Hang over กันมาบ้างแล้ว เคยสงสัยกันไหมคะว่าทำไมเวลาดื่มหนัก ๆ บางครั้งเราต้องเจอกับอาการนี้ แล้วเราควรแก้อาการนี้อย่างไร มาหาคำตอบได้ในบทความนี้กันค่ะ 🍷🍸
อาการเมาค้างเกิดจากอะไร?
การเมาค้างหรือแฮงค์เป็นอาการที่เกิดขึ้นหลังจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างหนัก อาการเหล่านี้อาจมีตั้งแต่ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อ่อนเพลีย ไปจนถึงอารมณ์ไม่ดีค่ะซึ่งมีหลายสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเมาค้าง ไม่ว่าจะเป็น
- การขาดน้ำ (Dehydration)
เนื่องจากแอลกอฮอล์เป็นสารที่ทำให้ร่างกายขับน้ำออกมามากขึ้น ทำให้ร่างกายของเราขาดน้ำ ส่งผลให้รู้สึกปวดศีรษะ อ่อนเพลีย และเวียนศีรษะค่ะ
- การขาดวิตามินและแร่ธาตุ
การดื่มแอลกอฮอล์ทำให้ร่างกายขาดวิตามินและแร่ธาตุสำคัญ เช่น วิตามินบีและแมกนีเซียม ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดอาการอ่อนเพลียและคลื่นไส้นั่นเอง
- การเกิดสารพิษในร่างกาย (Toxin Build-up)
เมื่อแอลกอฮอล์เข้าสู่ร่างกาย ตับของเราก็จะกำจัดแอลกอฮอล์ออกไป โดยมีเอนไซม์ที่ช่วยกำจัดแอลกอฮอล์ ซึ่งการกำจัดนี้เอง ทำให้แอลกอฮอล์เปลี่ยนเป็นสารพิษที่เรียกว่า อะซิทัลดีไฮด์ (acetaldehyde) ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดอาการ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ และอ่อนเพลียค่ะ
- ผลกระทบทางเคมีในสมอง
แอลกอฮอล์มีผลกระทบต่อสารเคมีในสมอง เช่น เซโรโทนิน และโดปามีน ทำให้เกิดอาการซึมเศร้าและหงุดหงิดได้นั่นเอง
วิธีแก้เมาค้างทำอย่างไร?
- ดื่มน้ำมากๆ
การดื่มน้ำเปล่าช่วยลดการขาดน้ำ และบรรเทาอาการปวดศีรษะและเวียนศีรษะ
- กินอาหารที่มีวิตามินและแร่ธาตุสูง
อาหารที่มีวิตามินบี แมกนีเซียม และโปแตสเซียม เช่น กล้วย ผักโขม และอัลมอนด์ ช่วยฟื้นฟูร่างกายได้ค่ะ
- ดื่มน้ำผลไม้เพิ่มความสดชื่น
น้ำผลไม้เช่น น้ำส้ม หรือ น้ำมะพร้าว ช่วยเพิ่มน้ำตาลในเลือดและฟื้นฟูพลังงานในร่างกาย
- นอนหลับให้เพียงพอ
การพักผ่อนให้เพียงพอช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
- ออกกำลังกายเบา ๆ
การออกกำลังกายเบา ๆ ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย
- ใช้ยาแก้ปวดบรรเทาอาการ
การใช้ยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล จะช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะของเราได้ค่ะ
การเมาค้างอาจเป็นสิ่งที่หลายคนต้องเผชิญหลังจากการสังสรรค์ แต่การรู้วิธีบรรเทาอาการและดูแลตัวเองจะช่วยให้เรากลับมาสดชื่นได้เร็วขึ้นค่ะ 😉