ในยุคที่อากาศ และสภาพแวดล้อมเลวร้ายมากที่สุดอย่างปัจจุบัน นอกจากจะต้องสูดดมมลพิษเหล่านี้เข้าไปภายในร่างกาย ซึ่งแน่นอนว่าอาจจะไม่ส่งผลต่อร่างกายรวดเร็วมากนัก แต่ก็ไม่อาจที่จะปฏิเสธได้เลยว่า ในระยะยาวต้องส่งผลต่อสุขภาพเราอย่างแน่นอน เช่นเดียวกับร่างกาย “ผิว” ของเราเองก็จะได้รับผลกระทบจากสภาพแวดล้อมเช่นนี้เหมือนกัน โดยเฉพาะอันตรายต่อผิวที่ถูกกระทำโดย “แดด” หรือ “รังสี” ที่มาพร้อมความร้อน แม้ตาเราจะไม่สามารถมองเห็นได้ แต่แน่นอนว่าส่งผลต่อผิวเราโดยตรง และไม่ต้องรอระยะยาวมากนักถึงจะส่งผลต่อสุขภาพผิวแน่นอน แล้วเราจะสามารถปกป้องผิวอันเป็นที่รักของเราได้อย่างไร? โดยผลิตภัณฑ์ที่เราจะมาเจาะลึกก็เป็นอะไรอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจาก ครีมกันแดด ภาษาอังกฤษ หรือ Sunscreen ที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดีนั่นเอง
รังสี UVA คืออะไร
หลายคนไม่ทราบว่ารังสี UVA คืออะไร วันนี้เราจะมาเจาะลึกในเรื่องของรังสีที่มากับแสงแดดทั้ง 2 ชนิดนี้กัน โดยเจ้ารังสี UVA นั้นจะเป็นรังสีที่มากับแสงแดดโดยจะมีความยาวคลื่นระหว่าง 320 ถึง 400 nm โดยแสงแดดที่ถูกสาดส่องมายังโลกเรานั้นมีรังสี UVA มากถึง 95% โดยเจ้ารังสีชนิดนี้มีความสามารถในการทะลุกระจกเข้ามาได้ บางคนคิดว่าแม้นว่าเราจะอยู่ภายในอาคาร จะสามารถ กันแดด ไม่โดนแสงแดดโดยตรงแล้วจะสามารถหลบเลี่ยงเจ้า UVA ได้ ก็คิดผิดถนัดเลยเชียว โดยมันสามารถเข้าไปสู่ชั้นผิดหนังของเราในชั้นที่ลึกได้ โดยในชั้นดังกล่าวจะประกอบไปด้วย collagen และ Elastic ส่งผลให้โดยอาจจะทำให้ผิวของเราเกิดริ้วรอยได้ค่อนข้างง่าย ผิวมีการแก่ก่อนวัยอันควร รวมไปถึงการเกิดจุดด่างดำ ที่สำคัญยังอาจจะเป็นสาเหตุ และปัจจัยในการก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย เริ่มเห็นความสำคัญของ ครีมกันแดด กันแล้วใช่ไหม?
รังสี UVB คืออะไร
สำหรับรังสี UVB นั้น เช่นเดียวกับรังสี UVA โดยจะถูกส่งมาพร้อมแสงแดดที่ส่องมายังโลกของเรา แต่ต่างกันที่เจ้ารังสีชนิดนี้ จะมีเพียงแค่ 5% เท่านั้นโดยรังสีชนิดนี้จะมีความยาวคลื่น 290 ถึง 320 nm แม้นว่าคุณสมบัติในการทำร้ายผิวของรังสีชนิดนี้จะไม่สามารถลงลึกได้เท่ากับ UVA แต่มันก็เป็นตัววายร้ายไม่น้อย ถ้าหากไม่ทา กันแดด เพราะมันสามารถทำให้ผิวหนังของเราเกิดการไหม้ รวมไปถึงเป็นฝ้า เป็นกระ และยังรวมไปถึงรอยคล้ำอีกด้วย แบบนี้ถ้าไม่มีครีมกันแดด ผิวดำ ผิวสี เอาง่ายเลยนะ
รังสี UVC คืออะไร
เป็นรังสีที่คนส่วนมากอาจจะไม่ค่อยคุ้นเคยสักเท่าใดนัก โดยเจ้ารังสี UVC จะมีความยาวของคลื่น 100 – 280 nm โดยมันจะเป็นรังสีที่มีพลังงานมากที่สุด มากกว่า UVA และ UVB เสียอีก แต่โชคดีของเราที่แทบไม่ต้องพบเจอกับมัน เพราะเจ้ารังสี UVC มักจะโดนชั้นโอโซนของโลกดูดซับไว้แทบทั้งหมดแล้ว
SPF ใน ครีมกันแดด
สาวๆทราบกันหรือไม่ว่าเจ้า SPF ที่มีอยู่ในครีมกันแดด คืออะไร? เชื่อว่ามีจำนวนไม่น้อยที่ไม่เคยทราบเลยว่ามันมีความหมายว่าอย่างไร เลือกที่เยอะๆ เอาไว้ก่อนเป็นยอดดี วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยกันสำหรับ SPF ย่อมาจาก Sun Protection Factor โดยจะมีค่าอยู่ที่ประมาณ 2 ไปจนถึง50 และอาจจะมี 100 ให้เห็นบ้างในบางผลิตภัณฑ์
PA ในครีมกันแดด
เช่นเดียวกับค่า SPF มีคนเพียงน้อยนิดที่ทราบว่าค่า PA คืออะไร โดยเจ้า PA ถูกย่อมาจาก Protection Grade of UVA ชื่อตามตัวเลย ก็คือมันมีหน้าที่ในการปกป้องผิวของเราจาก
วิธีการเลือกครีมกันแดด ที่เหมาะสมกับคุณ ที่ดีที่สุด
วิธีการเลือกซื้อ ครีมกันแดด เพื่อนำมาทาปกป้องผิว กันแดด ตามชื่อเรียกของมัน ถือเป็นข้อสำคัญไม่น้อย เพราะหากเราเลือกซื้อ ครีมกันแดด ไม่ตรงตามความต้องการแล้ว นอกจากจะใช้ ครีมกันแดด ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพแล้ว ยังอาจจะเปลืองเงินอีกด้วย โดย ครีมกันแดด มักจะต้องใช้วิธีในการทดลองใช้ ทดลองผลิตภัณฑ์จริงๆ เพราะจะประกอบไปด้วยหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น ความเหนียวเหนอะหนะ ในการใช้ครีมกันแดด รวมไปถึงเนื้อของครีมกันแดด ว่าสามารถเกลี่ยได้ง่ายหรือไม่ หรือใช้ๆไปแล้วเกิดความมันมากเป็นพิเศษหรือเปล่า? แน่นอนว่าหากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ก็ควรที่จะหลีกเลี่ยง หรือหยุดใช้ไว้ก่อน และครีม
หากคุณไม่ทาครีมกันแดด จะเป็นอย่างไร
มาถึงข้อที่อาจจะเป็นอันตรายต่อผิวอย่างมาก หากคุณกำลังเป็นอีกหนึ่งคนที่กำลังมองข้ามความสำคัญของ ครีมกันแดด แล้วล่ะก็ ต้องบอกเลยว่าเป็นหนทางที่ผิดเป็นอย่างมาก เพราะครีมกันแดด เป็นตัวช่วยชั้นยอด ที่จะมีหน้าที่ในการปกป้องผิวของเราจากการถูกทำร้ายอย่างรุนแรงจากแสงแดด ที่มีอันตรายไม่ว่าจะเป็นรังสี UVA และ รังสี UVB ยังไม่รวมรังสีความร้อนที่มาพร้อมกัน และสิ่งเหล่านี้สามารถที่จะส่งผลระยะยาวต่อผิวของคุณได้อย่างง่ายดาย และสิ่งี่น่ากลัวที่สุดของการไม่ปกป้องผิวของเราจากแสงแดดก็คงจะไม่พ้น “มะเร็งผิวหนัง”
ประเภทของครีมกันแดดจากประเภท
สำหรับการแยกประเภทครีมกันแดด หรือ Sunscreen มักจะถูกแบ่งเป็นแบบหลักๆก็คือ Chemical Sunscreen และ Physical Sunscreen โดยจะมีความแตกต่างกันในเรื่องของคุณสมบัติของครีมกันแดดในแต่ละประเภทจะมีรูปแบบที่ค่อนข้างแตกต่างกัน รวมไปถึงวิธีใช้งาน
ครีมกันแดด แบบ Chemical Sunscreen
มาเริ่มกันที่ครีมกันแดด ประเภท Chemical Sunscreen โดยประเภทนี้จะเป็นครีมกันแดดที่ใช้คุณสมบัติในการดูดและกลืนรังสี UV โดยหน้าที่คือปกป้องผิวให้รอดพ้นจากแสงแดด ก่อนที่จะสลายตัวไปเอง โดยครีมกันแดดแบบนี้มีคุณสมบัติในการละลายทั้งในน้ำ และบางประเภทจะสามารถละลายในน้ำมันได้ ช่วยให้สามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ลึก
ครีมกันแดด แบบ Physical Sunscreen
มาถึงประเภท Physical Sunscreen โดยมันจะมีข้อแตกต่าง ข้อดี ที่ไม่ทำให้ผิวเกิดความร้อนมาก จึงเป็นเหตุให้มันอ่อนโยน และเกิดการแพ้ได้น้อยกว่าครีมกันแดดชนิดแรก และยังมีคุณสมบัติไม่ซึมเข้าสู่ผิวชั้นลึกเพราะแร่ธาตุที่ใช้เป็นของที่แข็ง โดยหน้าที่หลักทำแค่เพียงสะท้อนแสง UV เท่านั้น
ข้อแตกต่างระหว่างครีมกันแดดแบบ Chemical หรือ Physical Sunscreen
โดยส่วนมากสามารถสังเกตได้ค่อนข้างยาก แต่จะมีวิธีที่สังเกตได้ค่อนข้างได้ผลก็คือ สามารถดูฉลากข้างหลังว่า หากไม่มี Zinc oxide หรือ Titanium dioxide ก็อาจจะพอเดาได้ว่าครีมกันแดดชนดนั้นเป็นแบบ Chemical Sunscreen
ประเภทการใช้งานของครีมกันแดด
ครีมกันแดด มักจะมีการแยกประเภทของการใช้งานด้วย โดยมักจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท นั่นก็คือ ครีมกันแดดทาหน้า และแน่นอนอีกชนิดก็คือ ครีมกันแดดทาตัว โดยแต่ละประเภทไม่ควรใช้ร่วมกัน ยกตัวอย่างเช่น หากเรานำครีมกันแดดทาตัวมาทาหน้า อาจจะส่งผลต่อจุดที่บอบบางเช่นรอบดวงตา และรอบริมฝีปากเป็นต้น
ครีมกันแดดทาหน้า
ครีมกันแดด ประเภทที่ถูกใช้กับใบหน้านั้นจะมีความพิเศษมากกว่าส่วนลำตัว เพราะผิวหน้ามักจะเป็นส่วนที่บอบบางมากที่สุด ดังนั้นผลิตภัณฑ์ทุกชนิดที่ใช้กับผิวหน้า รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ Sunscreen หรือ ครีมกันแดด ก็เช่นเดียวกัน โดยสามารถใช้บริการที่บางเป็นพิเศษได้ เช่นขอบตา ขอบริมฝีปากนั้นเอง มักจะมีความสามารถ หรือคุณสมบัติที่ช่วยปกป้องรังสี UV ได้ทั้ง UVA และ UVB
ครีมกันแดดทาตัว
เป็นครีมกันแดด ในกลุ่มที่เป็นที่รู้จักกันทั่วไป เพราะมักจะเป็นที่นิยมของทั้งหนุ่มๆ สาวๆ เวลาจะต้องมีความจำเป็นออกแดด โดยมักจะส่วนผสมทางเคมีที่หลากหลาย ผสมผสานเข้ากับวัตถุดิบจากธรรมชาติ ในปัจจุบันครีมกันแดดไม่เพียงแต่ช่วยในเรื่องของการปกป้องแสงแดด เพียงเท่านั้น ยังเพิ่มเติมคุณสมบัติที่หลากหลายในการดูแลผิวเข้ามาอีกด้วย
ประเภทของครีมกันแดด แบ่งตามเนื้อ
ครีมกันแดดมีหลากหลายชนิด อาจจะแบ่งได้ตามหลากหลายประเภท แบ่งไปตามผลิตภัณฑ์ที่มีรูปแบบผิว (Texture) ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น ครีมกันแดด แบบเจล ครีมกันแดดแบบเนื้อครีม รวมไปถึง ครีมกันแดดแบบ ครีมกันแดด แบบสเปรย์ เป็นต้น
ครีมกันแดดแบบครีม
ครีมกันแดด หรือ sunscreen รูปแบบแรกที่เราจะมาพูดถึงก็คือ ครีมกันแดด เนื้อครีม เหมาะกับคนที่มีผิวแห้ง เพราะที่จะผสมสารบำรุงความชุ่มชื้นผิว หากใช้กับหน้าอาจจะเกิดเหตุการณ์ หน้าวอกได้ สาวๆต้องระวังในการใช้งานให้ดี
ครีมกันแดดแบบเจล
มาถึงครีมกันแดดแบบต่อไป นั้นก็คือ ครีมกันแดด แบบเนื้อจล เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชื่นชอบความเหนียว ด้วยลักษณะพิเศษของเนื้อเจล สามารถซึมสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว เครื่องสำอางติดทนนานอีกด้วย
กันแดดผสมรองพื้น
มาถึงกันแดดขวัญใจสาวๆที่แต่งหน้าเป็นประจำ เพราะเป็น ครีมกันแดดที่ผสมรองพื้น ไม่ทำให้หน้าวอกเวลาทาอีกด้วย แถมยังปกป้องผิวหน้าจากแสงแดดได้เป็นอย่างดี
ครีมกันแดดแบบสเปรย์
ครีมกันแดด ยุคใหม่ ที่ทำให้การใช้งานง่ายยิ่งขึ้นไปอีก เหมาะกับคนที่รักกิจกรรมเป็นชีวิตจิตใจ ไปทะเลบ่อยๆ หรือกิจกรรมกลางแจ้งหนักๆ แถมการปกป้องก็ได้ด้อยกว่าแบบอื่นๆเลย พกสะดวกใช้ง่าย
ครีมกันแดด Stick
มาถึง ครีมกันแดด แบบสุดท้ายที่เราจะมาทำความรู้จักกันแล้ว ถือว่าเป็นครีมกันแดดที่หลายคนชื่นชอบ ด้วยรูปลักษณะ ทำให้สามารถพกพาได้สะดวกมาก รวมไปถึงการใช้งานยังง่ายและสะดวกเป็นอย่างมาก
บทสรุป การเลือกซื้อครีมกันแดด
จากเรื่องที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ ครีมกันแดด ที่เรานำเสนอไปทั้งหมด เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งที่สำคัญของครีมกันแดดเท่านั้น หากแต่ในความจริงแล้วยังมีอีกหลากหลายเรื่องที่เรายังไม่ได้กล่าว แต่หลังจากที่อ่านบทความ ครีมกันแดด ของเราแล้ว สำหรับคนที่ไม่เคยปกป้องผิวอันแสนบอบบางของตัวเองจากแดดเลย หวังว่าเวลาเจอแดดหนักๆ จะหาครีมกันแดดดีๆ มาทา กันแดด ไม่ว่าจะเป็น ครีมกันแดดทาหน้า หรือ ครีมกันแดดทาตัว และการเลือกครีมกันแดดก็ควรจะเลือกให้เหมาะกับการใช้งาน เหมาะกับสภาพผิวของเรามากที่สุดอีกด้วย ทางที่ดีอาจจะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ หรือแพทย์ผิวหนังจะดีมากที่สุด