fbpx

เรามีผิวประเภทไหน และควรเลือกสกินแคร์ยังไงดีนะ?

        โดยธรรมชาติแล้ว คนเรามีผิวที่แตกต่างกันถึง 4 ประเภทค่ะ ทั้งผิวธรรมดา ผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม ซึ่งผิวแต่ละประเภทก็เหมาะกับการดูแลที่แตกต่างกัน ดังนั้น การรู้ว่าตนเองมีผิวประเภทไหน จะยิ่งช่วยให้เราดูแลผิวได้ดียิ่งขึ้น และเลือกสกินแคร์ดูแลผิว ที่เหมาะกับผิวของเรายิ่งขึ้น และปัญหาผิวต่าง ๆ ก็จะน้อยลงไปด้วยค่ะ วันนี้ เราได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผิวแต่ละประเภทมาฝากทุกคนกันค่ะ ใครที่ยังไม่รู้หรือไม่แน่ใจว่าตนเองมีผิวประเภทไหน มาหาคำตอบไปพร้อมกันเลย!

ผิว 4 ประเภท แตกต่างกันอย่างไร?

ผิวธรรมดา

ผิวธรรมดา หมายถึงผิวที่มีสุขภาพดีและมีความสมดุล มีการไหลเวียนโลหิตที่ดี โดยลักษณะของผิวธรรมดาคือ มีความชุ่มชื้น ไม่มันหรือแห้งเกินไป มีรูขุมขนขนาดเล็ก ผิวเนียนนุ่ม ผิวดูสดชื่น ไม่หมองคล้ำ แต่เมื่ออายุมากขึ้น ผิวอาจหยาบกร้านขึ้น

ผิวแห้ง

ผิวแห้ง คือผิวที่มีความมันน้อยกว่าปกติและขาดกรดไขมันที่จำเป็นในการรักษาความชุ่มชื่นและสร้างเกราะป้องกันผิว ซึ่งคนที่มีผิวแห้งจะทำให้ผิวดูแห้งกร้านและแลดูหมองคล้ำได้ง่าย แต่มักไม่มีปัญหาสิวเสี้ยนหรือสิวอุดตัน การดูแลผิวที่เหมาะสมเพื่อเติมเต็มความชุ่มชื่นให้ผิวอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนที่มีผิวประเภทนี้ โดยเฉพาะการดูแลผิวบริเวณที่บอบบางอย่างผิวรอบดวงตาเพื่อลดการเกิดริ้วรอยในอนาคตค่ะ ลักษณะของผิวแห้งคือ ผิวดูหยาบกร้านไม่สดใส มีความยืดหยุ่นน้อย ผิวลอกเป็นขุย

ผิวมัน

ผิวมัน คือสภาพผิวที่มีการผลิตความมันในปริมาณที่มากเกินไป ทำให้ผิวมีความมันส่วนเกิน ซึ่งสาเหตุของผิวมันสามารถเกิดจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น พันธุศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ความไม่สมดุลขอฮอร์โมน การใช้ยาหรือความตึงเครียด และเครื่องสำอางที่ก่อให้เกิดการอุดตันและระคายเคือง คนที่มีผิวมันจะสามารถดูได้จากลักษณะของผิว เช่น รูขุมขนกว้าง ผิวเงาและมันวาว รวมถึงผิวหนาที่อาจทำให้เห็นเส้นเลือดไม่ชัดเจน โดยผู้ที่มีผิวมันจะมีแนวโน้มที่จะเกิดสิวอุดตันได้ง่ายกว่าผิวประเภทอื่น ๆ

ผิวผสม

ผิวผสมเป็นผิวที่มีลักษณะผสมกันระหว่างผิวสองประเภท ซึ่งอาจจะเป็นผิวมันผสมผิวธรรมดา หรือผิวแห้งผสมผิวธรรมดา หรือ ผิวแห้งผสมผิวมัน โดยลักษณะผิวผสมจะมีคุณสมบัติของผิวสองประเภทนี้อยู่ด้วยกันค่ะคือผู้ที่มีผิวผสมจะมีความมันเฉพาะบริเวณ T-zone หรือบริเวณหน้าผาก จมูก และคาง โดยบริเวณเหล่านี้จะมีรูขุมขนกว้าง จนอาจมีสิ่งสกปรกอุดตันในรูขุมขนได้ง่าย ส่วนบริเวณแก้มทั้งสองข้างจะมีลักษณะแบบผิวธรรมดาหรือผิวแห้งนั่นเอง

ผิวแบบนี้ เลือกสกินแคร์ยังไง?

ผิวธรรมดา

สกินแคร์ที่เหมาะสำหรับผิวธรรมดาควรเป็นสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของสารบำรุงผิวซึ่งช่วยให้ผิวกระจ่างใส โดยเฉพาะสารบำรุงผิวที่มีคุณสมบัติช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยและฝ้า

สกินแคร์ประเภทที่เหมาะสมสำหรับผิวธรรมดาได้แก่ คลีนเซอร์ที่ไม่มีส่วนผสมของสารเคมีและเหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของสารบำรุงผิว เช่น วิตามินซี หรือคอลลาเจน ซึ่งช่วยให้ผิวกระจ่างใสและป้องกันการเกิดริ้วรอย เซรั่มมีส่วนผสมของ กรดไฮยาลูโรนิค ช่วยกระชับผิวและลดการเกิดริ้วรอย มอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของ ฮิอาลูรอนช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว

ผิวแห้ง

สำหรับผิวแห้ง ควรเลือกสกินแคร์ประเภทที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและปรับสภาพผิวให้ดีขึ้น โดยเฉพาะ สกินแคร์มีส่วนผสมของน้ำมันสกัดจากพืช เช่น น้ำมันออลิฟ์, น้ำมันโอ๊ค, น้ำมันอาร์กัน, ซึ่งจะช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื่นและปรับสภาพผิวให้ดีขึ้นได้

นอกจากนี้ ควรเลือกสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของวิตามินซีและวิตามินอี เนื่องจากสารตัวนี้ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนบนผิวหน้า ช่วยให้ผิวแข็งแรงและไม่แห้งค่ะ

ผิวมัน

สกินแคร์ประเภทที่เหมาะสมสำหรับผิวมันคือ สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของสารที่ช่วยลดความมันบนผิวหน้า เช่น กรดฟิติค กรดอะซีติก และสารสกัดจากพืชเช่น สารสกัดจากใบกระเพรา และสารสกัดจากฝักบัว

ผิวผสม

สกินแคร์ที่เหมาะสมสำหรับผิวผสมควรเป็นสกินแคร์ที่ช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นและปรับสมดุลความมันบนผิว เช่นสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของสารเหล่านี้ คือ

  • ฮิยาลูโรนิค สารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยและเสียความชุ่มชื้นของผิว 
  • กรดไฮยาลูโรนิค กรดอะมิโนที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวและช่วยกระชับผิว
  • แอลฟ่า-ไทโอกลีค สารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดการอักเสบบนผิวและช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น
  • ไฮเดรทีด สารที่ช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นและกระตุ้นการผลักดันเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมา