fbpx

อาหารที่ควรทานและอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง ช่วงมีประจำเดือน

ช่วงมีประจำเดือนเป็นช่วงที่สาว ๆ อย่างเรา ๆ ทั้งรู้สึกไม่สบายตัว อ่อนเพลีย หิวบ่อย แถมอารมณ์ค่อนข้างแปรปรวนกันอีกด้วย เป็นผลมาจากฮอร์โมนซึ่งเป็นเรื่องปกติมาก ๆ เราต้องเจอกันแทบทุกเดือน การทานอาหารเป็นเรื่องหนึ่งที่ช่วยบรรเทาอาการไม่สบายตัวในช่วงนี้ได้ แต่ในขณะเดียวกัน อาหารบางชนิดก็อาจทำให้อาการในช่วงมีประจำเดือนแย่ลงได้เช่นเดียวกันค่ะ ดังนั้นการเลือกทานอาหารช่วงนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมากทีเดียวค่ะ

อาหารที่ควรทานในช่วงมีประจำเดือน

1.น้ำ

การดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญในช่วงมีประจำเดือนค่ะ เนื่องจากการดื่มน้ำช่วยบรรเทาอาการปวดหัวหรืออ่อนเพลียในช่วงนี้ได้ รวมถึงช่วยลดอาการท้องอืดหรือคั่งน้ำได้ด้วยเช่นกัน

2.ผักใบเขียว

ในช่วงมีประจำเดือนทำให้ระดับธาตุเหล็กลดลง ทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยล้า เวียนหัว ดังนั้นการเพิ่มธาตุเหล็กและวิตามินบี หรือทานอาหารที่มีธาตุเหล็กในขณะที่มีประจำเดือนเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ ค่ะ โดยผักใบเขียวที่มีธาตุเหล็ก เช่น คะน้า ตำลึง ผักบุ้ง ผักโขม

3.แตงโม

ช่วงมีประจำเดือนเรามักมีอาการอยากทนของหวาน หรือน้ำตาล การทานแตงโมช่วยลดอาการอยากน้ำตาล และทดแทนการอยากทานของหวานได้ดี เพราะแตงโมมีรสหวานจากธรรมชาติที่ไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย

4. ขิง

น้ำขิงหรือชาขิงอุ่น ๆ สักแก้วสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยหรือไม่สบายตัวในช่วงมีประจำเดือนได้ค่ะ เพราะขิงมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ และช่วยลดอาการปวดเมื่อยตามร่างกายนั่นเอง

5.ดาร์กช็อกโกแลต

ดาร์กช็อกโกแลตอุดมไปด้วยธาตุเหล็กและแมกนีเซียม ซึ่งช่วยลดความรุนแรงของอาการผิดปกติก่อนมีประจำเดือนได้ค่ะ เช่น อาการหงุดหงิด เศร้า นอนไม่หลับ หรืออาการเจ็บเต้านมนั่นเอง

6.โยเกิร์ต

โยเกิร์ตมีโพรไบโอติกส์ (Probiotics) ซึ่งช่วยเพิ่มแบคทีเรียชนิดดีในระบบทางเดินอาหาร จึงช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อยีสต์ระหว่างหรือหลังมีประจำเดือน โดยการติดเชื้อยีสต์จะทำให้เกิดอาการคันหรืออักเสบบริเวณจุดซ่อนเร้น การทานโยเกิร์ตจึงช่วยลดอาการดังกล่าวลงได้ค่ะ

อาหารทึ่ไม่ควรทานช่วงมีประจำเดือน

1.เกลือ

การบริโภคเกลือมากเกินไปอาจทำให้ร่างกายถูกกระตุ้นให้สะสมน้ำเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจทำให้ร่างกายบวมน้ำ และรู้สึกอ่อนเพลีย ไม่สบายตัวมากกว่าเดิม

2.น้ำตาล

การทานน้ำตาลไปมากเกินไป สามารถส่งผลกระทบต่อระดับน้ำตาลในเลือดและสมดุลของฮอร์โมนได้ค่ะ โดยอาจทำให้เกิดความเครียด อารมณ์แปรปรวนมากกว่าเดิมได้นั่นเอง

3.กาแฟ

กาแฟมีคาเฟอีน ที่อาจไปกระตุ้นให้ร่างกายคั่งน้ำ มีอาการปวดตัว ปวดหัว ไม่สบายตัว และอารมณ์แปรปรวนได้

4.แอลกอฮอล์

การดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจเร็วขึ้น เลือดสูบฉีดมากขึ้น ส่งผลให้ปริมาณของประจำเดือนเพิ่มมากขึ้น ทำให้ร่างกายอ่อนเพลียลง และอาจมีอาการปวดท้องร่วมด้วยค่ะ

5.อาหารรสจัด

อาหารที่มีรสจัด หากทานมากเกิดไป อาจส่งผลให้เกิดการระคายเคืองกระเพาะอาหาร ทำให้เกิดการท้องเสีย คลื่นไส้ ซึ่งทำให้เรารู้สึกไม่สบายตัวมากกว่าเดิม ดังนั้นการหลีกเลี่ยงอาหารรสจัดอาจดีที่สุดค่ะ