fbpx

สัญญาณเตือน ที่บอกว่าเรากำลัง “แพ้แลคโตส”

อาการแพ้แลคโตสเป็นอาการที่เราได้ยินกันอยู่บ่อย ๆ ใช่ไหมคะ เรียกได้ว่าเป็นอาการที่ร่างกายเกิดอาการผิดปกติหลังจากดื่มนมวัว หรือนมแพะ รวมถึงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมต่าง ๆ อาการนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทั้งเด็กและผู้ใหญ่เลย ในบทความนี้เราจะพาทุกคนไปทำความเข้าใจกับการแพ้แลคโตสให้มากขึ้น รวมถึงสัญญาณที่บ่งบอกว่าเรากำลังมีอาการแพ้แลคโตสอยู่นั่นเองค่ะ

แลคโตส คืออะไร?

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับแลคโตสกันก่อนค่ะ แลคโตสนั้น คือน้ำตาลโมเลกุลคู่ ที่ประกอบไปด้วยน้ำตาลกลูโคส และน้ำตาลกาแลคโตส ที่เป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวมารวมกันนั่นเองค่ะ
โดยน้ำตาลแลคโตสนั้น พบได้ในน้ำนมของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น นมวัว นมแพะ รวมถึงในอาหารและขนมต่าง ๆ ที่มีนมของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเป็นส่วนประกอบ

ทำไมร่างกายถึง “แพ้น้ำตาลแลคโตส”

อาการแพ้น้ำตาลแลคโตสที่เราเข้าใจนั้น จริง ๆ คือการที่ร่างกายของเราไม่สามารถผลิตเอนไซม์แลตเตส ที่ใช้ในการย่อยน้ำตาลแลคโตสได้อย่างเพียงพอ ทำให้น้ำตาลแลคโตสไม่ถูกย่อยให้แยกเป็นโมเลกุลเดี่ยว คือกลูโคส และกาแลคโตส ที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้ น้ำตาลแลคโตสก็จะถูกส่งผ่านต่อไปยังลำไส้ใหญ่ ทำให้เชื้อแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่เข้าไปย่อยน้ำตาลแลคโตส และทำให้เกิดแก๊สและของเหลวในลำไส้ สิ่งที่เกิดต่อมาคือ ทำให้เกิดอาการผิดปกติต่าง ๆ นั่นเองค่ะ

สัญญาณเตือน “แพ้แลคโตส”

สัญญาตเตือนที่พบได้บ่อยของผู้ที่มีอาการแพ้แลคโตสมีดังนี้ค่ะ โดยจะเป็นอาการที่ปรากฎเมื่อร่างกายได้รับแลคโตสไปแล้ว 30 นาที หรือ 1 ชั่วโมงนั่นเอง โดยความรุนแรงของอาการนั้นขึ้นอยู่กับปริมาณแลคโตสที่ร่างกายได้รับ และความสามารถในการย่อยแลคโตสของแต่ละคนค่ะ

  • แน่นท้อง ท้องอืด
  • ปวดท้อง
  • ผายลมบ่อย
  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • ท้องเสีย ถ่ายเหลว

การดูแลตัวเองเมื่อแพ้น้ำตาลแลคโตส

  • หลีกเลี่ยงการดื่มนมจากสัตว์ รวมถึงหลีกเลี่ยงการทานผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม
  • รับแคลเซียม และวิตามินดี จากแหล่งอาหารอื่น ๆ อย่างนมที่ทำจากพืชแทน เช่น นมถั่วเหลือง นมอัลมอนด์ และปลาทะเล ไข่แดง ตับ เต้าหู้ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เพียงพอและไม่เสี่ยงเป็นโรคกระดูกพรุน
  • ถ้าไม่มีอาการแพ้ที่รุนแรง ก็สามารถทานผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมได้ แต่ควรมีแลคโตสในปริมาณที่น้อย และควรปรึกษาแพทย์

อาการแพ้แลคโตสนั้นเป็นอาการที่เราควรให้ความสำคัญ และใส่ใจดูแลสุขภาพของเราเมื่อมีอาการนี้ รวมถึงควรรับประทานอาหารที่ช่วยเสริมแคลเซียม เพื่อให้ร่างกายของเราแข็งแรง และไม่มีปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ตามมาค่ะ