อาการคันจุดซ่อนเร้น เป็นอาการที่สาว ๆ เจอกันบ่อย ๆ ใช่ไหมคะ แต่เชื่อว่าหลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องเล็ก เดี๋ยวก็หายไปเอง แต่ที่จริงแล้วอาการคันจุดซ่อนเร้น อาจเป็นสัญญาณเตือนของความผิดปกติ เป็นเชื้อราในช่องคลอด หรือโรคอื่น ๆ ได้ค่ะ ในบทความนี้เราจะพาสาว ๆ ไปดูกันว่า สาเหตุของอาการคันน้องสาวมีอะไรบ้าง ไปตามอ่านกันเลยค่ะ
รวมสาเหตุของอาการ “คันจุดซ่อนเร้น”
ติดเชื้อรา
การติดเชื้อรา เป็นอาการที่ในช่องคลอดของเรามีเชื้อรามากกว่าปกติ ทำให้เราเกิดอาการคัน แสบร้อน รวมถึงมีตกขาวเป็นก้อน ๆ ไหลออกมาจากช่องคลอดค่ะ
ช่องคลอดอักเสบ
ช่องคลอดอักเสบ เกิดจากการที่แบคทีเรียในช่องคลอดขาดสมดุล คือมีแบคทีเรียชนิดดีในช่องคลอด แต่ก็มีแบคทีเรียที่ไม่ดีอยู่เช่นกัน ทำให้เกิดอาการคัน มีตกขาวที่มีสีขาวขุ่น หรือเป็นฟอง มีกลิ่นเหม็นค่ะ
โรคผิวหนัง
โรคผิวหนังบางอย่างทำให้เกิดอาการคันบริเวณช่องคลอดได้ค่ะ เช่น โรคผิวหนังอักเสบ โรคภูมิแพ้และมีผื่นคันลามไปยังช่องคลอด
วัยทอง
วัยทองก็มีส่วนทำให้เกิดอาการคันบริเวณจุดซ่อนเร้นได้ค่ะ เกิดจากการที่เมื่อผู้หญิงเข้าสู่วัยทอง ฮอร์โมนเอสโตรเจนหรือฮอร์โมนเพศหญิงลดลง ทำให้เมือกที่เคลือบอยู่บริเวณช่องคลอดบางลง ทำให้ช่องคลอดแห้ง และทำให้เกิดอาการคัน อาการระคายเคืองได้ง่ายค่ะ
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
สาเหตุที่พบได้บ่อยที่ทำให้เกิดอาการคันคือ เป็นโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ค่ะ เช่น โรคหนองใน ติดเชื้อทริโคโมแนส นอกจากนี้ยังตามมาด้วยอาการตกขาวผิดปกติอีกด้วยค่ะ
มะเร็งปากช่องคลอด
มะเร็งปากช่องคลอด เป็นโรคที่ทำให้บริเวณช่องคลอดมีอาการคัน เจ็บ มีเลือดออกบริเวณช่องคลอดค่ะ
นอกจากสาเหตุที่เกี่ยวกับปัญหาสุขภาพแล้ว ยังมีสาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้ช่องคลอดมีอาการคันได้ค่ะ เช่น การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลจุดซ่อนเร้นที่มีสารเคมี ทำให้เกิดอาการอักเสบ ระคายเคืองและคันได้
นอกจากนี้ อาจเกิดจากการที่ดูแลทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นไม่ดี มีอาการอับชื้น ใช่ชุดชั้นในที่รัดแน่น ทำกิจกรรมอย่างการปั่นจักรยาน ขี่ม้า ที่จุดซ่อนเร้นของเราต้องเสียดสี หรืออับชื้น ก็ทำให้เกิดอาการคันตามมาได้ง่ายค่ะ
ใครที่มีปัญหาอาการคันบริเวณจุดซ่อนเร้น หรือมีอาการผิดปกติต่าง ๆ ตามมาด้วย เช่น ตกขาวผิดปกติ มีเลือดออก ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำและรับการรักษาที่เหมาะสม เพื่อป้องกันไม่ให้อาการลุกลาม หรือส่งผลต่อการใช้ชีวิตค่ะ