ประจำเดือนมาช้าแค่ไหน ถึงเรียกว่าผิดปกติ?

ปัญหาที่สาว ๆ มักเจอกันบ่อย ๆ อย่างหนึ่งเกี่ยวกับการมีประจำเดือน คือการที่ประจำเดือนมาช้า หรือประจำเดือนเคลื่อนใช่ไหมคะ ปัญหานี้เหมือนจะเป็นปัญหาเล็ก ๆ แต่มักก่อให้เกิดความกังวลไม่ใช่น้อย ๆ เลย เพราะประจำเดือนมาช้า อาจหมายถึงว่าสาว ๆ อาจตั้งครรภ์ หรือมีปัญหาสุขภาพก็เป็นได้ แต่ก่อนที่จะเป็นกังวลในเรื่องนั้น สาว ๆ รู้ไหมคะว่า การที่ประจำเดือนมาช้า หรือประจำเดือนเคลื่อนเนี่ย ต้องช้าไปกี่วันถึงเรียกว่าผิดปกติกันนะ? ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องนี้กันค่ะ

ประจำเดือนมาช้าแค่ไหน ถึงเรียกว่าผิดปกติ?

โดยปกติแล้ว รอบเดือนของสาว ๆ จะอยู่ระหว่าง 21-35 วัน ค่ะ โดยเราจะนับตั้งแต่วันที่ประจำเดือนมาวันแรก ไปอีก 21-35 วัน ถ้าประจำเดือนมาในช่วงเวลานี้ ถือว่าปกติ แต่ถ้ามาเร็วกว่านี้ (น้อยกว่า 3 สัปดาห์) ถือว่ามาเร็วไป และถ้ามาช้ากว่านี้ (เกิน 35 วัน) แปลว่าประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือมาช้าไปนั่นเองค่ะ

นอกจากนี้ การที่ประจำเดือนมาไม่ปกติ มักรวมถึงอาการเหล่านี้ด้วยเช่นกันค่ะ เช่น

• ประจำเดือนมามาก ต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก ๆ 1-2 ชั่วโมง
• ประจำเดือนมานานเกิน 7 วัน
• มีอาการปวดท้องน้อยที่รุนแรง

สาเหตุที่ทำให้ประจำเดือนมาช้า หรือมาไม่ปกติ

ความเครียด การสะสมความเครียดอาจส่งผลต่อระบบประจำเดือน โดยเฉพาะการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งสามารถทำให้ประจำเดือนมาช้า หรือมาไม่ปกติ

• ใช้ยาคุมกำเนิด ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยวโปรเจสเตอโรน เช่น ยาฉีดคุมกำเนิดหรือยาฝังคุมกำเนิด ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกบางลงและอาจมีผลต่อระบบประจำเดือนได้
• เสียสมดุลของฮอร์โมนเพศ อย่างฮอร์โมนเอสโตรเจนและเทสโทสเตอโรน อาจเกิดจากโรคถุงน้ำในรังไข่หลายใบ มักทำให้มีประจำเดือนน้อยว่า 9 ครั้งใน 1 ปี หรือรอบประจำเดือนห่างกันเกิน 35 วัน
• ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ เช่น บริเวณรังไข่ ท่อนำไข่ หรือเยื่อบุช่องท้อง ทำให้อาการปวดท้องน้อย และมีประจำเดือนปริมาณมากผิดปกติ
• ภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรัง เป็นภาวะที่อาจทำให้ประจำเดือนมานานหรือขาดไป ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของปัญหาเสริมเช่นการมีบุตรยาก และเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็งโพรงมดลูก
• เนื้องอก เนื้องอกบริเวณมดลูกหรือโพรงมดลูกเป็นสาเหตุที่มักเกิดความผิดปกติในระยะประจำเดือน เนื้องอกอาจทำให้ประจำเดือนมามากหรือนานกว่าปกติ

ประจำเดือนมาช้า อันตรายไหม?

โดยปกติแล้ว การที่ประจำเดือนมาช้านั้นไม่ถึงกับเป็นอันตราย แต่ถ้ามีอาการผิดปกติอื่น ๆ ตามมา เช่น ประจำเดือนมาช้า แต่พอประจำเดือนกลับมา มีเลือดออกในปริมาณมากผิดปกติ หรือมีอาการปวดท้อง มีไข้ คลื่นไส้อาเจียน ก็ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาสาเหตุและแนวทางการรักษาต่อไปค่ะ