การทำความสะอาดผิวหน้า เป็นการดูแลผิวขั้นตอนหนึ่งที่ต้องพิถีพิถันและขาดไม่ได้เลยค่ะ เพราะเราต้องเจอกับฝุ่นควัน และมลภาวะต่าง ๆ มากมาย อีกทั้งยังมีเครื่องสำอางและครีมกันแดดที่ตกค้าง หากเราทำความสะอาดผิวไม่ดี อาจก่อให้เกิดการอุดตัน สิวขึ้น ผิวอักเสบและระคายเคืองได้ค่ะ แต่การล้างหน้านั้นหากเราล้างผิดวิธี ก็อาจทำให้ผิวเสียได้เหมือนกันนะ
ชวนเช็ค! ล้างหน้าแบบนี้ ทำผิวเสียได้นะ
1. ล้างหน้าเร็วเกินไป
สิ่งสำคัญในการล้างหน้า คือการทำให้ผิวของเราสะอาดใช่ไหมคะ การล้างหน้าเร็วเกินไป ทำให้สิ่งสกปรกที่ตกค้างบนผิว ไม่ได้ถูกชะล้างออกไปจนหมด นั่นเหมือนกับว่าเราไม่ได้ล้างหน้าเลยด้วยซ้ำนะ ทำให้ผิวของเราอาจอุดตัน หมองคล้ำ ผิวอักเสบได้ ระยะเวลาที่เราควรล้างหน้า หรือการใช้โฟม / เจลหน้าล้าง มาถูกับใบหน้า ควรอยู่ที่ 30-60 วินาที ซึ่งเป็นเวลาที่เหมาะสม และช่วยให้ผิวของเราได้รับการทำความสะอาดที่แท้จริงค่ะ ฝุ่น แบคทีเรีย เครื่องสำอางตกค้าง จะถูกชะล้างออกไป ไม่มีสิ่งสกปรกตกค้างค่ะ
2. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับผิวหน้า
การเลือกใช้สกินแคร์ เครื่องสำอาง คลีนซิ่ง หรือโฟมล้างหน้านั้น เราจำเป็นต้องเลือกใช้ตัวที่เหมาะกับสภาพผิวของเราค่ะ ไม่ว่าจะเป็นผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม เพราะผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ มักผลิตออกมาเพื่อตอบโจทย์ผิวที่แตกต่างกัน ผลิตภัณฑ์บางตัวเกิดมาเพื่อสภาพผิวที่แตกต่างกัน หากเราไม่ได้เลือกโดยยึดสภาพผิวของเราเป็นหลัก อาจทำให้เกิดปัญหาผิวตามมาได้ค่ะ เช่น คลีนซิ่งบางตัวมีส่วนผสมของน้ำมัน หากเราเป็นคนผิวมันแล้วใช้คลีนซิ่งตัวนี้ อาจทำให้ผิวของเรามันกว่าเดิม ผิวอุดตันจากความมันได้ง่าย ผลตามมาคือสิวเห่อนั่นเองค่ะ ดังนั้นก่อนการเลือกไอเทมทำความสะอาดผิว เลือกตัวที่เหมาะกับผิวของเราน้า
3. ล้างหน้าบ่อยเกินไป
การล้างหน้าบ่อยเกินไป ไม่ใช่เรื่องดีค่ะ หลายคนอาจคิดว่าการล้างหน้าบ่อย ๆ จะช่วยให้ผิวสะอาด และช่วยให้ผิวสุขภาพดี แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่แบบนั้นค่ะ การล้างหน้าบ่อยเกินไป จะทำให้ผิวหน้าของเราเสียสมดุล ทำให้ผิวแห้ง เสียความชุ่มชื้นได้ เพราะเป็นการดึงน้ำมันออกจากผิวของเรานั่นเอง ส่วนคนที่ผิวมันเป็นทุนเดิม การล้างหน้าบ่อย ๆ ไม่ได้ช่วยกำจัดความมันน้า แม้ความมันจะถูกชะล้างออกไป แต่เมื่อผิวของเราแห้งเกินไป ผิวของเราจะผลิตความมันขึ้นมาเพิ่มมากขึ้น เพื่อทดแทนความชุ่มชื้นที่เสียไปค่ะ ผลคือทำให้ผิวหน้าเรามันมากกว่าเดิมนั่นเอง ทีนี้ปัญหาผิวตามมารัว ๆ แน่นอน การล้างหน้าที่ดีที่สุดคือควรล้างวันละ 2 ครั้ง คือตอนเช้าและตอนเย็นนั่นเองค่ะ
4. สครับผิวบ่อยเกินไป
การสครับผิวเป็นการช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกไป ช่วยให้ผิวหน้าของเราสะอาดหมดจด ดูกระจ่างใสสุขภาพดีขึ้น แต่การสครับผิวหน้าบ่อยเกินไป อาจทำให้ของเราเสียได้นะ เพราะเป็นการรบกวนผิว อาจทำให้ผิวอักเสบ ระคายเคืองได้ค่ะ โดยเฉพาะการใช้สครับที่มีความหยาบจะยิ่งทำร้ายผิวของเรากว่าเดิม การสครับผิวที่เหมาะสม คือ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ก็เพียงพอค่ะ
5. ใช้น้ำอุ่นล้างหน้า
น้ำอุ่นช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลาย หลายคนจึงมักใช้น้ำอุ่น ๆ ในการล้างหน้า แต่การใช้น้ำอุ่นล้างหน้าบ่อย ๆ จะทำให้ผิวของเราสูญเสียความชุ่มชื้น แห้งกร้านได้ค่ะ ดังนั้นเราจึงไม่ควรใช้น้ำอุ่นล้างหน้าบ่อย ๆ และวันไหนที่เราใช้น้ำอุ่นล้างหน้า ต้องบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น เบื่อทดแทนความชุ่มชื้นที่ผิวเสียไปด้วยน้า
6. ใช้ผ้าที่ไม่สะอาดเช็ดหน้า
ไม่ว่าเราจะล้างหน้าดีแค่ไหน แต่ถ้าหลังล้างหน้าเราใช้ผ้าที่ไม่สะอาดมาเช็ด การล้างหนน้าของเราก็เหมือนสูญเปล่าเลยค่ะ ผ้าที่เราไม่ควรนำมาเช็ดหน้าเลย คือผ้าขนหนูนั่นเอง ถ้าเราไม่ได้เปลี่ยนผ้าขนหนูทุกวัน หรือมั่นใจว่าผ้าขนหนูสะอาดเพียงพอ แนะนำใช้ผ้าสำหรับเช็ดหน้าโดยเฉพาะ และเปลี่ยนบ่อย ๆ หรือใช้ทิชชู่ในการเช็ดค่ะ เนื่องจากผ้าขนหนูเป็นตัวสะสมเชื้อโรคและแบคทีเรียนั่นเอง ดังนั้นสาว ๆ เช็ดผิวกันอย่างระวังด้วยน้า